ติดตาม กุมารฯ ม.อ.

ท่านสามารถติดตามกิจกรรมและสาระความรู้ ผ่านช่องทางติดตาม กุมารฯ ม.อ.
ทาง Facebook และ YouTube ได้ที่ช่องทางด้านล่างนี้

ประวัติความเป็นมา กุมารฯ ม.อ.

จากปัญหาทางด้านสาธารณสุขของภาคใต้และความขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขของประเทศ รวมทั้งเพื่อให้การดำเนินการเป็นไปตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 3 ( พ.ศ. 2514 – 2518 ) รัฐบาลจึงมีดำริให้จัดตั้งคณะแพทยศาสตร์เพิ่มขึ้น และสภาการศึกษาแห่งชาติได้อนุมัติให้มีโครงการจัดตั้งคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2514 โดยมีเป้าหมายในการผลิตบุคลากรทางการแพทย์ พยาบาล และสาธารณสุข เพื่อตอบสนองความต้องการของประเทศและส่วนภูมิภาค โดยเฉพาะในภาคใต้

พ.ศ.2515

ได้มีประกาศราชกิจจานุเบกษาให้คณะแพทยศาสตร์เป็นหน่วยงานระดับคณะของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และสภามหาวิทยาลัยได้มีมติให้ตั้งคณะแพทยศาสตร์ ณ วิทยาเขตหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา โดยในระยะแรกประกอบด้วย 11 ภาควิชา กับ 2 หน่วยงาน ภาควิชากุมารเวชศาสตร์รับผิดชอบการจัดการเรียนการสอนวิชากุมารเวชศาสตร์ของหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต

พ.ศ.2516

คณะแพทยศาสตร์รับนักศึกษารุ่นแรก จำนวน 35 คน โดยเรียนภาคทฤษฎี 3 ปีแรกที่คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตหาดใหญ่

พ.ศ.2519

นักศึกษาแพทย์รุ่นแรกขึ้นชั้นปีที่ 4 เรียนวิชา “Introduction to clinical medicine” และฝึกปฎิบัติงานด้านคลินิก ที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ เนื่องจากขณะนั้นการก่อสร้างโรงพยาบาลสงขลานครินทร์มีความล่าช้ากว่าแผน ภาควิชากุมาร-เวชศาสตร์ช่วงนั้นมีสำนักงานชั่วคราวตั้งอยู่ที่ชั้นล่างของคณะวิศวกรรมศาสตร์ และบางส่วนที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ คณะแพทยศาสตร์ได้เพิ่มการรับนักศึกษาแพทย์เป็น 64 คนต่อปี และเพิ่มขึ้นอีกตามแผนการรับนักศึกษาเป็น 96 คนต่อปี ในปี พ.ศ. 2527-2535 จำนวน 126 คนต่อปี ในช่วง พ.ศ. 2536-2541 จำนวน 146 คนต่อปี ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2542-2544 และปี พ.ศ. 2545 เหลือ 140 คน เนื่องจากลดจำนวนนักศึกษาโควตาจังหวัดลง

พ.ศ.2520

ภาควิชากุมารเวชศาสตร์และภาควิชาต่างๆ เริ่มจัดการเรียนการสอนและการฝึกปฏิบัติงานบนหอผู้ป่วยสำหรับนักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่ 5-6 ที่หอ ผู้ป่วย
โรงพยาบาลหาดใหญ่ และโรงพยาบาลสงขลา เนื่องจากขณะนั้นโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ เพิ่งเริ่มก่อสร้างในช่วงแรก พ.ศ. 2520 – 2525 คณะแพทยศาสตร์ขาดบุคลากรด้านอาจารย์อย่างมาก ต้องเชิญอาจารย์พิเศษจากคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามา-
ธิบดี คณะแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หมุนเวียนกันมาช่วยสอนนักศึกษาแพทย์

พ.ศ.2521

นักศึกษาแพทย์รุ่นแรกจบแพทยศาสตรบัณฑิต จำนวน 35 คน ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ได้ย้ายสำนักงานชั่วคราวมาอยู่ที่ ชั้น 4 อาคารบริหารคณะแพทยศาสตร์

พ.ศ.2523

ปรับหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิตเป็น 277 หน่วยกิต นักศึกษาแพทย์จบการศึกษาพร้อมกับรับใบประกอบวิชาชีพเวชกรรมใน 6 ปี ปรับให้นักศึกษา
ผ่านการเรียนการสอนวิชากุมารเวชศาสตร์ในชั้นปีีที่ 4, 5 และ 6

พ.ศ.2525

โรงพยาบาลสงขลานครินทร์เปิดให้บริการจำนวน 100 เตียง นักศึกษาแพทย์ที่เวียนมาปฎิบัติงานที่ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ยังคงปฎิบัติงานที่ โรง-
พยาบาลหาดใหญ่ และโรงพยาบาลสงขลา โดยอาจารย์จะต้องหมุนเวียนให้บริการที่ โรงพยาบาลหาดใหญ่และโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ และจัดการ
เรียนการสอนที่โรงพยาบาลหาดใหญ่และโรงพยาบาลสงขลาด้วย

พ.ศ.2526

ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ได้ย้ายสำนักงานจากอาคารบริหารคณะแพทยศาสตร์ มายังสถานที่ตั้งปัจจุบัน ณ ชั้น 4 อาคาร กุมารเวชศาสตร์–สูติศาสตร์นรีเวชวิทยา โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ นักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่ 4, 5 และ 6 ยังคงหมุนเวียนปฏิบัติงานที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ และโรงพยาบาลหาดใหญ่

พ.ศ.2527

ภาควิชากุมารเวชศาสตร์จัดอบรมวิชาการประจำปีสำหรับแพทย์ นับเป็นครั้งแรกของคณะแพทยศาสตร์ ที่จัดให้มีการอบรมวิชาการสำหรับแพทย์และบุคลากรสาธารณสุข และต่อมาภาควิชาฯ ได้จัดอบรมวิชาการประจำปีอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน

พ.ศ.2528

ภาควิชาฯ เปิดการฝึกอบรมแพทย์ประจำบ้านสาขากุมารเวชศาสตร์ นับเป็นภาควิชาแรกของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์  โดยมีคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี คณะแพทยศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล โรงพยาบาลเด็กหาดใหญ่เป็นสถาบันสมทบ ในระยะแรก พ.ศ. 2528-2535 ส่งแพทย์ประจำบ้านไปเรียน ณ สถาบันสมทบที่กรุงเทพฯ ในชั้นปีีที่ 2 เป็นเวลา 1 ปี ในปี พ.ศ. 2536 ได้ลดระยะเวลา ไปเรียนและฝึกปฎิบัติงาน ณ โรงพยาบาลสมทบเหลือเพียง 6 เดือน
ในปีนี้เป็นปีแรกที่ภาควิชาฯ มีแพทย์ใช้ทุน 4 คน เข้ามาปฎิบัติงาน และฝึกอบรมคู่ขนานไปกับแพทย์ประจำบ้าน

พ.ศ.2531

เปิดหออภิบาลผู้ป่วยสำหรับเด็ก (Pediatrics Intensive Care Unit; PICU) เพื่อให้บริการผู้ป่วยเด็กมีภาวะวิกฤตจำนวน 4 เตียง
 ในปีนี้เป็นปีแรกที่แพทย์ประจำบ้าน สำเร็จการฝึกอบรมได้รับวุฒิบัตรฯ

พ.ศ.2533

เป็นปีแรกที่แพทย์ใช้ทุนของภาควิชาฯ เข้าร่วมสอบและได้รับวุฒิบัตรฯ ซึ่งต่อมาภาควิชาฯมีแพทย์ใช้ทุนเข้ามาปฎิบัติงานและสอบเพื่อวุฒิบัตรฯ ทุกปี

พ.ศ.2536

ปรับหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต ให้สอดคล้องกับเกณฑ์ของทบวงมหาวิทยาลัยจากจำนวน 277 หน่วยกิต ลดเหลือ 248 หน่วยกิต ภาควิชากุมาร-เวชศาสตร์ได้ปรับหลักสูตรวิชากุมารเวชศาสตร์ จากการเรียนชั้นปีที่ 4 จำนวน 5 หน่วยกิต ชั้นปีที่ 5 จำนวน 6 หน่วยกิต และชั้นปีที่ 6 จำนวน 8 หน่วยกิต เป็นชั้นปีที่ 5 จำนวน 10 หน่วยกิต และชั้นปีที่ 6 จำนวน 7 หน่วยกิต
ในปีนี้คณะแพทยศาสตร์ได้มีนโยบายให้มีการประกันและพัฒนาคุณภาพทั่วทั้งองค์กร ภาควิชากุมารเวชศาสตร์ได้ดำเนินและพัฒนางานทุกภารกิจ เพื่อประกันและพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่อง

พ.ศ.2537

คณะแพทยศาสตร์ร่วมกับคณะวิทยาศาสตร์ปรับหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิตชั้นปรีคลินิก จากการเรียนตามภาควิชาให้มีการบูรณาการระหว่างภาควิชา และแบ่งรายวิชาตามระบบอวัยวะและวงจรชีวิต

พ.ศ.2543

คณะแพทยศาสตร์ปรับหลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิต โดยมีการบูรณาการของสาขาวิชาเปลี่ยนชื่อรายวิชาใหม่ และจัดการเรียนการสอนเป็นแบบ Block ภาควิชาฯ ได้มีส่วนร่วมในการปรับหลักสูตรใหม่ และเป็นแกนกลางในการจัดทำหลักสูตรรายวิชา  “สุขภาพและโรคตั้งแต่ระยะปฏิสนธิถึงวัยรุ่น 1, 2, 3  (Health and diseases: from conception to adolescence I, II, III) และเปิดรายวิชานี้ในปีการศึกษา 2545 การจัดทำหลักสูตรในรายวิชานี้มีกรรมการรายวิชา ซึ่งมีอาจารย์ของภาควิชาฯ เป็นประธาน มีกรรมการประกอบด้วยอาจารย์ของภาควิชาฯ เองและอาจารย์จากภาควิชาที่เกี่ยวข้องอีกหลายท่าน เพื่อทำให้หลักสูตรแพทยศาสตรบัณฑิตครอบคลุมในมุมมองที่กว้างขึ้น สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ที่ต้องการส่งเสริมให้นักศึกษามีสามัตถิยะ 9 ประการ และมีการเปิดให้บริการการรักษาด้วย cardiac intervention

พ.ศ.2545

มีการขยายการบริการและเพิ่มศักยภาพของหออภิบาลผู้ป่วยเด็ก (PICU) จากจำนวน 4 เตียงในปี 2531 เป็นจำนวน 8 เตียง เพื่อรองรับผู้ป่่วยเด็กที่อยู่ในภาวะวิกฤตและให้การดูแลเป็นพิเศษ ด้านการจัดการศึกษาหลังปริญญา ภาควิชาฯ ได้รับการตรวจประเมินการจัดฝึกอบรมแพทย์ประจำบ้าน โดยกรรมการตรวจประเมินของราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 24-25 มิถุนายน 2545 ซึ่งได้ผ่านการประเมินในระดับ ดีเยี่ยม

พ.ศ.2546

คณะแพทยศาสตร์ได้จัดทำหลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิตชั้นสูง สาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์คลินิก หลักสูตรใหม่ พ.ศ. 2546 ภาควิชาฯ รับผิดชอบสอนในรายวิชาสาขากุมารเวชศาสตร์ จำนวน 38 หน่วยกิต

พ.ศ.2547

ภาควิชาฯ ได้เปิดการฝึกอบรมแพทย์ประจำบ้านต่อยอด โดยได้รับการอนุมัติจากแพทยสภา ให้เปิดการฝึกอบรมฯ ใน 3 อนุสาขา คือ         
 1) อนุสาขากุมารเวชศาสตร์ทารกแรกเกิดและปริกำเนิด
 2) อนุสาขากุมารเวชศาสตร์ต่อมไร้ท่อและเมตาบอลิสม
 3) อนุสาขากุมารเวชศาสตร์โรคหัวใจ

พ.ศ.2548

คณะแพทยศาสตร์ได้ปรับหลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิตชั้นสูงสาขาวิทยาศาสตร์การแพทย์คลินิก ในส่วนของสาขากุมารเวชศาสตร์ปรับลดจำนวนหน่วยกิตจากเดิม 38 หน่วยกิต เหลือ 27 หน่วยกิต

พ.ศ.2549

ภาควิชาฯ ได้รับอนุมัติให้เปิดการฝึกอบรมแพทย์ประจำบ้านต่อยอด อนุสาขากุมารเวชศาสตร์โรคภูมิแพ้และภูมิคุ้มกัน

พ.ศ.2551

ภาควิชาฯ ได้รับการตรวจประเมินการจัดฝึกอบรมแพทย์ประจำบ้านต่อยอด โดยกรรมการตรวจประเมินของราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย
3 อนุสาขาวิชาดังนี้
– อนุสาขากุมารเวชศาสตร์โรคหัวใจ เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2551
– อนุสาขากุมารเวชศาสตร์ทารกแรกเกิดและปริกำเนิด วันที่ 1 ธันวาคม 2551
– อนุสาขากุมารเวชศาสตร์ต่อมไร้ท่อและเมตาบอลิซึม วันที่ 12 ธันวาคม 2551
*ซึ่งผ่านการประเมินทั้ง 3 อนุสาขา

พ.ศ.2552

เริ่มการจัดการเรียนการสอนชีวันตาภิบาล (Palliative care) สำหรับ นศพ.ปี 5 และปี 6

พ.ศ.2553

หน่วยโลหิตวิทยาและมะเร็งวิทยา ได้เริ่มการรักษาด้วยวิธี Autologous bone marrow transplantation และหน่วยโรคหัวใจ เริ่มมีการทำ Neonatal open heart surgery care

พ.ศ.2554

ภาควิชาฯ ได้รับการตรวจประเมิน จากราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย และอนุมัติให้เป็นสถาบันฝึกอบรมหลักในอนุสาขาโลหิตวิทยาและมะเร็งในเด็ก เพิ่มอีก 1 อนุสาขา และหน่วยโรคหัวใจ มีการทำ Complex open heart surgery care

พ.ศ.2555

ภาควิชาฯ ได้รับการตรวจประเมินคุณภาพภายนอก จากคณะอนุกรรมการฝึกอบรมและสอบเพื่อวุฒิบัตรกุมารเวชศาสตร์ ราชวิทยาลัย กุมารแพทย์แห่งประเทศไทย และได้รับการรับรองคุณภาพของสถาบันฝึกอบรมแพทย์ประจำบ้าน ในปีเดียวกันหน่วยโรคหัวใจ มีการทำ International workshop การรักษาผ่านสายสวนหัวใจ VSD device closure

พ.ศ.2556

ภาควิชาฯ ได้รับการตรวจประเมินคุณภาพภายนอก จากคณะอนุกรรมการฝึกอบรมและสอบเพื่อวุฒิบัตรกุมารเวชศาสตร์ ราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทย และได้รับการรับรองคุณภาพของสถาบันฝึกอบรมแพทย์ประจำบ้านต่อยอด สาขาทารกแรกเกิด ต่อมไร้ท่อและเมตาบอลิซึม โรคภูมิแพ้และ อิมมูโนวิทยา โรคหัวใจ และโลหิตวิทยาและมะเร็งในเด็ก
-หน่วยโลหิตวิทยาและมะเร็งในเด็ก ให้การรักษาผู้ป่วยด้วยการปลูกถ่ายไขกระดูกโดยใช้เซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิตชนิด Allogeneic Bone Marrow Transplantationหน่วยทารกแรกเกิด เริ่มการรักษาด้วยเครื่องทำอุณหภูมิกายต่ำ (Therapeutic Hypothermia)
– หน่วยทารกแรกเกิด เริ่มการรักษาด้วยเครื่องทำอุณหภูมิกายต่ำ (Therapeutic Hypothermia)

พ.ศ.2558

ภาควิชาฯ ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นหน่วยบริการรักษาโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาวและมะเร็งต่อมน้ำเหลืองด้วยวิธีปลูกถ่ายไขกระดูกโดยใช้เซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิตสำหรับผู้ป่วยเด็กจากสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
– ให้การรักษาผู้ป่วยด้วยเครื่อง Extracorporeal membrane oxygenation (ECMO) ใน PICU เป็นครั้งแรก

พ.ศ.2559

ภาควิชาฯ ได้รับอนุมัติให้เปิดการฝึกอบรมแพทย์ประจำบ้านต่อยอด อนุสาขากุมารเวชศาสตร์โรคระบบทางเดินหายใจเพิ่มอีก 1 อนุสาขา
– หน่วยโรคหัวใจได้เริ่มการทำ Radiofrequency perforation for pulmonic valvulotomy in Pulmonaryatresia/pulmonary stenosis

พ.ศ.2560

ภาควิชาฯ ได้รับการรับรองเป็น Transplant Center ในการปลูกถ่ายเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิตจากผู้บริจาคที่ไม่ใช่ญาติจากศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาติไทย
– หน่วยโรคหัวใจมีการทำ PDA stent, Percutaneous pulmonic valve implantation และ Live case transmission to International conference in Vietnam

พ.ศ.2561

หน่วยทารกแรกเกิด ได้เริ่มบริการ ธนาคารนมแม่บริจาค (Donor milk bank) นับเป็นแห่งที่ 3 ในประเทศไทยต่อจากโรงพยาบาลรามาธิบดี และโรงพยาบาลศิริราช
เนื่องจากมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ได้ออกนอกระบบราชการ “ภาควิชากุมารเวชศาสตร์” จึงได้เปลี่ยนเป็น “สาขาวิชากุมารเวชศาสตร์” เปิดหลักสูตร วิชาเลือกเสริมประสบการณ์ สำหรับนักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่ 6 เริ่มการจัดการเรียนการสอน Patient safety สำหรับนักศึกษาแพทย์ชั้นปี ที่ 6 และมีการ ฝึกอบรม International Interventional Cardiology ให้กุมารแพทย์จากประเทศเมียนมา

พ.ศ.2562

สาขาวิชาฯ จัดตั้งหน่วยโรคข้อและรูมาติสซั่ม โดยมีอาจารย์ที่สำเร็จการศึกษาประกาศนียบัตรอนุสาขากุมารเวชศาสตร์โรคข้อและรูมาติสซั่ม
– หน่วยโรคระบบการหายใจเริ่มจัดงานประชุม Southern pediatric respiratory forum เป็นครั้งแรกและจัดต่อเนื่องเป็นประจำทุกปี

พ.ศ.2563

สาขาวิชาฯ จัดตั้งหน่วยโรคผิวหนัง โดยมีอาจารย์ที่สำเร็จการศึกษาวุฒิบัตรอนุสาขากุมารเวชศาสตร์ตจวิทยา
– เริ่มการจัดการเรียนการสอน Non-technical skill (NTS): communication in health care สำหรับนศพ.ชั้นปีที่ 5
– เนื่องจากสถานการณ์การระบาดของไวรัสโควิด-19 สาขาวิชาฯ เริ่มการจัดการเรียนการสอนในรูปแบบออนไลน์ผ่าน platform LMS ของมหาวิทยาลัย และมีการนำ platform มาใช้อย่างต่อเนื่อง
– เริ่มการจัดการเรียนการสอน Clinical reasoning สำหรับนศพ.ชั้นปีที่ 5
– ได้รับอนุมัติให้เปิดการฝึกอบรมกุมารแพทย์โรคหัวใจเพื่อประกาศนียบัตรในวิชาชีพเวชกรรมด้านหัตถการปฎิบัติรักษาโรคหัวใจและหลอดเลือดร่วมกับสถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี
– เพิ่มศักยภาพการฝึกอบรมแพทย์ประจำบ้านต่อยอด อนุสาขากุมารเวชศาสตร์โรคระบบการหายใจ เป็น 2 ตำแหน่ง
– สาขาวิชาฯ เพิ่มศักยภาพการฝึกอบรมแพทย์ประจำบ้านต่อยอด อนุสาขากุมารเวชศาสตร์ทารกแรกเกิดและปริกำเนิด เป็น 3 ตำแหน่ง
– หน่วยโรคไตเพิ่มศักยภาพในการทำ hemodialysis ที่หออภิบาลผู้ป่วยเด็ก (PICU)

พ.ศ.2564

สาขาวิชาฯ จัดตั้งหน่วยเวชบำบัดวิกฤติ (Division of Critical Care Medicine)

พ.ศ.2565

สาขาวิชาฯ ได้รับประกาศนียบัตร การรับรองเฉพาะโรค (Disease Specific Certification: DSC) ของกลุ่มเด็กสมาธิสั้น
– ได้รับอนุมัติให้เปิดการฝึกอบรมแพทย์ประจำบ้านต่อยอด อนุสาขากุมารเวชศาสตร์พัฒนาการและพฤติกรรมเพิ่มอีก 1 อนุสาขา
– หน่วยโรคระบบการหายใจเพิ่มศักยภาพในการตรวจผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจด้วยเครื่อง fractional exhaled nitric oxide